ในยุคที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวหน้าเรื่อยๆ ทำให้อะไรหลายอย่างปรับเปลี่ยนไป ซึ่งหากพูดถึงการปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา ผู้นำด้านเทคโนโลยี อย่าง Cisco ก็ได้เปิดตัวแนวคิดระบบเครือข่ายใหม่เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ด้วย AI และ Machine Learning ไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นบางคนก็อาจจะยังสงสัย อยากทำความรู้จักแนวคิดนี้ให้มากขึ้นและในบทความนี้ก็ได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้ศึกษาแล้ว
ทำความรู้จักโซลูชัน Intent-based Networking
Intent-based Networking ที่ทาง Cisco ได้เปิดตัวไปนั้นเป็นระบบเครือข่ายในอนาคตที่พัฒนามาไว้ให้กับเหล่าองค์กร ที่จะมีการผสมผสาน 2 สิ่งเข้าไปในระบบเครือข่ายโดยตรงเลย นั่นคือ AI และ Machine Learning ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้จะไปเรียนรู้การทำงานทำให้ทราบถึงความต้องการนั้นๆ ไม่ว่าจะ ระบบเครือข่าย การปรับปรุงที่ควรได้รับเลยอัตโนมัติ เรื่องราวแปลกปลอมที่เกิดขึ้นในเครือข่าย ฯลฯ แต่ก็ใช่ว่าแนวคิดนี้จะมองแค่ด้าน Network ซึ่งยังได้มองถึงด้าน Security ร่วมด้วย ซึ่งโซลูชัน Intent-based Networking ที่ทาง Cisco ได้เปิดตัวไปนั้นจะทำงานในรูปแบบเต็มตัวของ Sofware-defined Networking ที่ประกอบด้วย 3 หลักการ ได้แก่ Context, Intuition และ Intent
- Context : เป็นการใช้สิ่งแวดล้อมภายในระบบมาระบุถึงพฤติกรรมของระบบเครือข่าย เช่น Who, What, Where, When, How ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น
- Intuition : จะมีการวิเคราะห์เครือข่ายทั้งหมดในตัว อย่าง Flow ผ่านระบบ AI และ Machine Learning ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถมองเห็นเหตการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นรวมถึงคาดการณ์แนวโน้วที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าได้ทันที
- Intent : สุดท้ายจะเป็นการกำหนดค่าในระบบเครือข่ายต่างๆ ได้แก่ เลือกวัตถุประสงค์ของระบบเครือข่ายที่อยากจะให้เป็นมาแทนการกำหนดค่าเชิงเทคนิค ช่วยให้เราได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการมากขึ้น
การทำงานของโซลูชัน Intent-based Networking
สำหรับระบบเครือข่ายของ Intent-based Networking ที่เราเห็นนั้น จริงๆ แล้วต้องอาศัย Cisco Digital Network Architecture (DNA) มาช่วยในการทำงานด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพขั้นสุดต่อผู้ใช้งานนั้นๆ โดย Cisco DNA จะมีเทคโนโลยีต่างๆ มาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งวันนี้เราพาไปดู
- Network Data Platform and Assurance : เป็นระบบที่ใช้อยู่ใน Machine Learning เกี่ยวกับการระบุควาสัมพันธ์ของข้อมูลที่มีอยู่ในระบบเครือข่ายทั้งหมดและการจัดหมวดหมู่เข้าด้วยกัน
- DNA Center : เป็นระบบของ Intent-based ที่ช่วยจัดการเครือข่ายจากศูนย์กลาง
- Software Subscription : เป็นระบบที่อยู่ใน DNA มีความสามารถในเรื่อง Subscribe แบบเฉพาะส่วนหรือเป็นชุด Cisco One ได้หมดถ้าสดชื่น
- Software-Defined Access (SD-Access) : เป็นระบบที่ช่วยควบคุมการเข้าใช้งานเครือข่ายของผู้ที่ใช้งานทั้งหมด ทำให้เครือข่ายถุกแก้ไขให้เร็วขึ้นร้อยละ 80, ลดค่าใช้จ่ายเรื่องการดำเนินการลงร้อยละ 61, สร้างนโยบายให้ผู้ใช้งานแต่ละคนเร็วขึ้นร้อยละ 67 และลดช่องโหว่เกี่ยวกับความปลอดภัยเครือข่ายร้อยละ 48
- DNA Services : จะมีทีมงานคอยอบรมและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนระบบเครือข่ายให้ไปเป็นแบบ Intent-based Networking
- Catalyst 9000 Switch Portfolio : เป็น Switch ที่มี IOS XE และ ASIC รุ่นใหม่ในตัว ช่วยรองรับความสามารถในเรื่องการทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ
- Developer Center : เป็นระบบที่เปิด DevNet DNA Developer Center โดย Cisco ใช้เพื่ออบรมการพัฒนาแอปพลิเคชั่นและแลกเปลี่ยนความรู้แบบชุมชนกัน ให้ทำงานร่วมกับเครือข่าย Cisco DNA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Encrypted Traffic Analytics : เป็นระบบตัวช่วยชั้นดีที่จะมาค้นหาความเสี่ยงหรือภัยคุกคามที่แฝงอยู่ในข้อมูลที่ต้องเข้ารหัส ซึ่งการวิเคราะห์ Metadata Traffic Pattern เราจะเลือกใช้ Machine Learning ร่วมกับ Cisco Talos Cyber Intelligence ทำให้ค้นหาการคุกคามได้แม่นยำถึงร้อยละ 90 ไม่ต้องมาเสียเวลาถอดรหัสข้อมูลใดๆ แถมมี False Positive ร้อยละ 01 เท่านั้นด้วย
องค์กรใดอยากมีการทำงานที่ดี เต็มประสิทธิภาพไม่ต้องกังวลเรื่องต่างๆ หันมาเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยระบบเครือข่ายใหม่ AI และ Machine Learning ถือว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว